เครื่องพ่นยาราคาส่ง ขนาด 16 ลิตร และ 20 ลิตร ปั้มแข็งแรงทนการใช้งาน เหมาะสำหรับชาวเกตรชาวไรชาวส่วน หากต้องเลือกว่าเครื่องพ่นยาแบตเตอรี่ ยี่ห้อไหนดีขอแนะนำkoko เพราะคุณภาพดีและแรงใช้งานได้คุ้มค่า และเป็นทีต้องการของผู้บริโภค

ถังพ่นยาแบตเตอรี่ 16 ลิตร สีส้ม KOKO แรงดัน 5.5 บาร์

มีสินค้า

835 บาท

  

ราคาปกติ 920 บาท

ข้อมูลย่อ

ขนาด: 16 ลิตร แบต:12V 8AH (เต็ม)

แรงดัน: 90 PSI (5.5 บาร์)

รอบมอเตอร์: 3.6 วิ/นาที

ระบบเปิดปิด และ และระบบปรับแรงดัน 

สี : สีส้ม

ปั้มแข็งแรงทนการใช้งาน เหมาะสำหรับชาวเกตรชาวไรชาวส่วน หากต้องเลือกว่าเครื่องพ่นยาแบตเตอรี่ ยี่ห้อไหนดีขอแนะนำkoko เพราะคุณภาพดีและแรงใช้งานได้คุ้มค่า และเป็นทีต้องการของผู้บริโภค

ราคาส่ง ใบละ 550 บาท ยังไม่รวมค่าจัดส่ง

ถังพ่นยาแบตเตอรี่ 16 ลิตร สีส้ม KOKO แรงดัน 5.5 บาร์

ขนาดถัง : 16 ลิตร
ยี่ห้อ/รุ่นปั๊ม : KOKO / BBS01_16D02
แรงดันปั๊ม : 5.5 บาร์ (90PSI 3.6LPM)
แบตเตอรี่ : BATTERY LONGNERGY     
ความจุแบตเตอรี่ : 12V 8A เต็ม
ใช้งานต่อเนื่อง : 8 ชั่วโมง+
หัวพ่นยา : 5 แบบ
ก้านพ่นยา : 1 ก้าน
ระยะพ่น : 5-6 เมตร
ระบบปั๊ม : 2 ระบบ ปิด-เปิด และ เปิดแบบเร่งความแรง
ระบบชาร์ต : ชาร์ตตรงไฟบ้าน ชาร์ตง่ายเหมือนโทรศัพท์มือถือ
วัสดุถัง : พลาสติกพอลิเอทิลีนหนาอย่างดี (PE)

เครื่องพ่นยาแบตเตอรี่  16 ลิตร 8Amp / 12V ความจุ

ตัวถังผลิตจากพลาสติกเนื้อหนาคุณภาพ ไม่แตกร้าวง่าย น้ำไม่รั่วซึม

หัวชุดพ่นผลิตจากทองเหลืองอย่างดี ทนทาน ป้องกันการเกิดสนิม

สามารถอัดอากาศเพื่อเพิ่มแรงดันในการฉีดน้ำได้

น้ำหนักเบา สะดวกต่อการใช้งาน และการจัดเก็บเคลื่อนย้าย

แรงดัน 5.5 บาร์

ส้ม

ถังพ่นยาแบตเตอรี่คืออะไร?

ถังพ่นยาแบตเตอรี่ เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้สำหรับพ่นสารเคมี เช่น ยาฆ่าแมลง ยาปราบศัตรูพืช และปุ๋ยน้ำ โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แทนการใช้มือโยก ทำให้สามารถพ่นได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในไร่นา สวนผลไม้ และพื้นที่เกษตรกรรมขนาดใหญ่

ข้อดีของถังพ่นยาแบตเตอรี่

1. ลดแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

ด้วยระบบอัตโนมัติของ ถังพ่นยาแบตเตอรี่ เกษตรกรไม่จำเป็นต้องออกแรงโยกปั๊มเหมือนถังพ่นยาแบบแมนนวล ทำให้ลดความเหนื่อยล้าและเพิ่มความสะดวกในการทำงาน สามารถพ่นยาได้อย่างต่อเนื่องและครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นในเวลาที่สั้นลง

2. ประหยัดเวลาและลดต้นทุน

การใช้ถังพ่นยาแบบแบตเตอรี่ช่วยให้สามารถพ่นสารเคมีได้เร็วขึ้น ลดปริมาณแรงงานที่ต้องใช้ ส่งผลให้ลดต้นทุนแรงงานและเพิ่มผลผลิตได้ในระยะยาว

3. ควบคุมปริมาณการพ่นได้แม่นยำกว่า

ระบบไฟฟ้าใน ถังพ่นยาแบตเตอรี่ สามารถควบคุมแรงดันน้ำและปริมาณสารเคมีที่พ่นออกมาได้อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถใช้สารเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเปล่าและช่วยประหยัดสารเคมี

4. ลดความเสี่ยงจากสารเคมี

เมื่อใช้ ถังพ่นยาแบตเตอรี่ ผู้ใช้งานสามารถอยู่ห่างจากสารเคมีที่ถูกพ่นออกไป ลดโอกาสสัมผัสกับสารเคมีโดยตรง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน

องค์ประกอบสำคัญของถังพ่นยาแบตเตอรี่

1. แบตเตอรี่

แบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงานหลักของถังพ่นยา โดยทั่วไปมีให้เลือกทั้ง แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด (Lead-Acid) และ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-ion) ซึ่งมีความทนทานและประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน

2. ปั๊มน้ำแรงดันสูง

ปั๊มน้ำแรงดันสูง เป็นหัวใจหลักของระบบพ่นยา ช่วยให้สารเคมีสามารถพ่นออกมาได้อย่างสม่ำเสมอและมีระยะพ่นที่ไกลขึ้น

3. หัวพ่นและสายพ่น

หัวพ่นและสายพ่นเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยกระจายสารเคมีให้ทั่วถึง โดยหัวพ่นมีหลายประเภท เช่น หัวพ่นแบบละอองฝอย และ หัวพ่นแบบเจ็ทพ่นตรง ซึ่งสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการทำงาน

วิธีการเลือกซื้อถังพ่นยาแบตเตอรี่ที่เหมาะสม

1. ความจุของแบตเตอรี่

หากต้องการใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน ควรเลือกแบตเตอรี่ที่มีความจุสูง เช่น 12V 8Ah หรือสูงกว่า ซึ่งจะช่วยให้สามารถใช้งานได้นานขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

2. แรงดันของปั๊มน้ำ

ควรเลือกถังพ่นยาที่มีปั๊มแรงดันสูงอย่างน้อย 70 PSI ขึ้นไป เพื่อให้สามารถพ่นยาได้อย่างมีประสิทธิภาพและคลุมพื้นที่ได้กว้างขึ้น

3. วัสดุของถังและสายพ่น

ควรเลือกถังที่ทำจาก พลาสติกหนาพิเศษ (HDPE) ที่ทนทานต่อสารเคมี และสายพ่นที่มีคุณภาพสูงเพื่อป้องกันการรั่วซึม

4. ระบบหัวพ่นและอุปกรณ์เสริม

เลือกหัวพ่นที่สามารถเปลี่ยนได้หลากหลายแบบ เพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น หัวพ่นหมอกละเอียด สำหรับพืชที่ต้องการละอองฝอย หรือ หัวพ่นแบบตรง สำหรับพืชที่ต้องการการพ่นเป็นเส้นตรง

การดูแลรักษาถังพ่นยาแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นาน

1. การชาร์จแบตเตอรี่ให้ถูกวิธี

ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนใช้งาน และไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่หมดจนเกินไปเพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่

2. ล้างถังและสายพ่นหลังการใช้งาน

หลังจากใช้งานเสร็จ ควรล้างถังพ่นยาและสายพ่นด้วยน้ำสะอาดเพื่อลดการสะสมของสารเคมี ซึ่งอาจทำให้เกิดการอุดตันและลดประสิทธิภาพของเครื่อง

3. ตรวจสอบระบบปั๊มและหัวพ่นเป็นประจำ

ควรตรวจสอบแรงดันของปั๊มและสภาพหัวพ่นอยู่เสมอ หากพบว่ามีการอุดตันควรทำความสะอาดหรือเปลี่ยนใหม่ทันที

สรุป

ถังพ่นยาแบตเตอรี่ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การพ่นสารเคมีมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ประหยัดแรงงาน และปลอดภัยกว่าระบบแบบแมนนวล การเลือกซื้อถังพ่นยาที่มีคุณภาพ ควบคู่กับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี จะช่วยให้เกษตรกรสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ได้ยาวนาน

หากคุณกำลังมองหา ถังพ่นยาแบตเตอรี่ ที่ดีที่สุดสำหรับการเกษตรของคุณ อย่าลืมพิจารณาคุณสมบัติต่างๆ ให้ครบถ้วนเพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากที่สุด

ข้อแนะนำเพิ่มเติม

หลีกเลี่ยงและเก็บให้ห่างจากเปลวไฟ

หลีกเลี่ยงการกรีด ขูดขีด ด้วยของแข็งและของมีคม

หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดด้วยน้ำยาหรือสารเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรง เพราะอาจทำให้สินค้าเสียหายได้

ควรล้างทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน


หมายเหตุ : สีของผลิตภัณฑ์ที่แสดงบนเว็บไซต์ อาจมีความแตกต่างกันจากการตั้งค่าการแสดงผลสีของแต่ละหน้าจอ