ถังพ่นยาแบตเตอรี่ 16 ลิตร สีส้ม KOKO แรงดัน 5.5 บาร์
ขนาดถัง | : 16 ลิตร |
ยี่ห้อ/รุ่นปั๊ม | : KOKO / BBS01_16D02 |
แรงดันปั๊ม | : 5.5 บาร์ (90PSI 3.6LPM) |
แบตเตอรี่ | : BATTERY LONGNERGY |
ความจุแบตเตอรี่ | : 12V 8A เต็ม |
ใช้งานต่อเนื่อง | : 8 ชั่วโมง+ |
หัวพ่นยา | : 5 แบบ |
ก้านพ่นยา | : 1 ก้าน |
ระยะพ่น | : 5-6 เมตร |
ระบบปั๊ม | : 2 ระบบ ปิด-เปิด และ เปิดแบบเร่งความแรง |
ระบบชาร์ต | : ชาร์ตตรงไฟบ้าน ชาร์ตง่ายเหมือนโทรศัพท์มือถือ |
วัสดุถัง | : พลาสติกพอลิเอทิลีนหนาอย่างดี (PE) |
เครื่องพ่นยาแบตเตอรี่ 16 ลิตร 8Amp / 12V ความจุ
ตัวถังผลิตจากพลาสติกเนื้อหนาคุณภาพ ไม่แตกร้าวง่าย น้ำไม่รั่วซึม
หัวชุดพ่นผลิตจากทองเหลืองอย่างดี ทนทาน ป้องกันการเกิดสนิม
สามารถอัดอากาศเพื่อเพิ่มแรงดันในการฉีดน้ำได้
น้ำหนักเบา สะดวกต่อการใช้งาน และการจัดเก็บเคลื่อนย้าย
แรงดัน 5.5 บาร์
ส้ม
ถังพ่นยาแบตเตอรี่คืออะไร?
ถังพ่นยาแบตเตอรี่ เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้สำหรับพ่นสารเคมี เช่น ยาฆ่าแมลง ยาปราบศัตรูพืช และปุ๋ยน้ำ โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แทนการใช้มือโยก ทำให้สามารถพ่นได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในไร่นา สวนผลไม้ และพื้นที่เกษตรกรรมขนาดใหญ่
ข้อดีของถังพ่นยาแบตเตอรี่
1. ลดแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ด้วยระบบอัตโนมัติของ ถังพ่นยาแบตเตอรี่ เกษตรกรไม่จำเป็นต้องออกแรงโยกปั๊มเหมือนถังพ่นยาแบบแมนนวล ทำให้ลดความเหนื่อยล้าและเพิ่มความสะดวกในการทำงาน สามารถพ่นยาได้อย่างต่อเนื่องและครอบคลุมพื้นที่มากขึ้นในเวลาที่สั้นลง
2. ประหยัดเวลาและลดต้นทุน
การใช้ถังพ่นยาแบบแบตเตอรี่ช่วยให้สามารถพ่นสารเคมีได้เร็วขึ้น ลดปริมาณแรงงานที่ต้องใช้ ส่งผลให้ลดต้นทุนแรงงานและเพิ่มผลผลิตได้ในระยะยาว
3. ควบคุมปริมาณการพ่นได้แม่นยำกว่า
ระบบไฟฟ้าใน ถังพ่นยาแบตเตอรี่ สามารถควบคุมแรงดันน้ำและปริมาณสารเคมีที่พ่นออกมาได้อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถใช้สารเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเปล่าและช่วยประหยัดสารเคมี
4. ลดความเสี่ยงจากสารเคมี
เมื่อใช้ ถังพ่นยาแบตเตอรี่ ผู้ใช้งานสามารถอยู่ห่างจากสารเคมีที่ถูกพ่นออกไป ลดโอกาสสัมผัสกับสารเคมีโดยตรง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน
องค์ประกอบสำคัญของถังพ่นยาแบตเตอรี่
1. แบตเตอรี่
แบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงานหลักของถังพ่นยา โดยทั่วไปมีให้เลือกทั้ง แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด (Lead-Acid) และ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Lithium-ion) ซึ่งมีความทนทานและประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน
2. ปั๊มน้ำแรงดันสูง
ปั๊มน้ำแรงดันสูง เป็นหัวใจหลักของระบบพ่นยา ช่วยให้สารเคมีสามารถพ่นออกมาได้อย่างสม่ำเสมอและมีระยะพ่นที่ไกลขึ้น
3. หัวพ่นและสายพ่น
หัวพ่นและสายพ่นเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยกระจายสารเคมีให้ทั่วถึง โดยหัวพ่นมีหลายประเภท เช่น หัวพ่นแบบละอองฝอย และ หัวพ่นแบบเจ็ทพ่นตรง ซึ่งสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการทำงาน
วิธีการเลือกซื้อถังพ่นยาแบตเตอรี่ที่เหมาะสม
1. ความจุของแบตเตอรี่
หากต้องการใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน ควรเลือกแบตเตอรี่ที่มีความจุสูง เช่น 12V 8Ah หรือสูงกว่า ซึ่งจะช่วยให้สามารถใช้งานได้นานขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
2. แรงดันของปั๊มน้ำ
ควรเลือกถังพ่นยาที่มีปั๊มแรงดันสูงอย่างน้อย 70 PSI ขึ้นไป เพื่อให้สามารถพ่นยาได้อย่างมีประสิทธิภาพและคลุมพื้นที่ได้กว้างขึ้น
3. วัสดุของถังและสายพ่น
ควรเลือกถังที่ทำจาก พลาสติกหนาพิเศษ (HDPE) ที่ทนทานต่อสารเคมี และสายพ่นที่มีคุณภาพสูงเพื่อป้องกันการรั่วซึม
4. ระบบหัวพ่นและอุปกรณ์เสริม
เลือกหัวพ่นที่สามารถเปลี่ยนได้หลากหลายแบบ เพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น หัวพ่นหมอกละเอียด สำหรับพืชที่ต้องการละอองฝอย หรือ หัวพ่นแบบตรง สำหรับพืชที่ต้องการการพ่นเป็นเส้นตรง
การดูแลรักษาถังพ่นยาแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นาน
1. การชาร์จแบตเตอรี่ให้ถูกวิธี
ควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อนใช้งาน และไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่หมดจนเกินไปเพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่
2. ล้างถังและสายพ่นหลังการใช้งาน
หลังจากใช้งานเสร็จ ควรล้างถังพ่นยาและสายพ่นด้วยน้ำสะอาดเพื่อลดการสะสมของสารเคมี ซึ่งอาจทำให้เกิดการอุดตันและลดประสิทธิภาพของเครื่อง
3. ตรวจสอบระบบปั๊มและหัวพ่นเป็นประจำ
ควรตรวจสอบแรงดันของปั๊มและสภาพหัวพ่นอยู่เสมอ หากพบว่ามีการอุดตันควรทำความสะอาดหรือเปลี่ยนใหม่ทันที
สรุป
ถังพ่นยาแบตเตอรี่ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การพ่นสารเคมีมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ประหยัดแรงงาน และปลอดภัยกว่าระบบแบบแมนนวล การเลือกซื้อถังพ่นยาที่มีคุณภาพ ควบคู่กับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี จะช่วยให้เกษตรกรสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ได้ยาวนาน
หากคุณกำลังมองหา ถังพ่นยาแบตเตอรี่ ที่ดีที่สุดสำหรับการเกษตรของคุณ อย่าลืมพิจารณาคุณสมบัติต่างๆ ให้ครบถ้วนเพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานของคุณมากที่สุด
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
หลีกเลี่ยงและเก็บให้ห่างจากเปลวไฟ
หลีกเลี่ยงการกรีด ขูดขีด ด้วยของแข็งและของมีคม
หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดด้วยน้ำยาหรือสารเคมีที่มีฤทธิ์รุนแรง เพราะอาจทำให้สินค้าเสียหายได้
ควรล้างทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน
หมายเหตุ : สีของผลิตภัณฑ์ที่แสดงบนเว็บไซต์ อาจมีความแตกต่างกันจากการตั้งค่าการแสดงผลสีของแต่ละหน้าจอ